ReadyPlanet.com
dot
ค้นหาบทความ

dot
bulletระดับมัธยม
bulletBeijing Jiaotong University
dot
มหาวิทยาลัยในไต้หวัน
dot
dot
เมืองไทเป
dot
bulletNational Zhengzhi University
bulletNational Taiwan Normal University
bulletNational Taiwan Normal University
dot
เมืองไถจง
dot
bulletFengchia University
dot
ประวัติศาสตร์จีนน่ารู้
dot
bulletราชวงศ์ต่าง ๆ ฯ
bulletการเริ่มต้นการปกครองของชนเผ่าหฺวาซย่า
bulletระบบศักดินาในราชวงศ์โจวและศึกแย่งชิงอำนาจของเหล่าเจ้านครรัฐ
bulletมหาอาณาจักรฉิน : การก่อตัวและการล่มสลาย
bulletการขยายแสนยานุภาพของอาณาจักรฮั่นตะวันตก
bulletราชวงศ์ฮั่นตะวันออก : พระญาติวงศ์และขันทีครองเมือง
dot
ข่าวสาร Update
dot
bulletสถานศึกษาในประเทศจีนที่ ก.พ.รับรอง
dot
กวีนิพนธ์จีน
dot
bulletความหมายแห่งกวีนิพนธ์จีน
bulletห้วงคำนึงยามดึก หลี่ไป๋
bulletเจวี๋ยจวี้ ตู้ฝู่
bulletถอนต้นกล้า หลี่เซิน
dot
Neighbor's Links
dot
bulletสถานีวิทยุ ซีอาร์ไอ ปักกิ่ง ภาคภาษาไทย
bulletเรียนภาษาจีนออนไลน์
bulletข่าวสารและรอบรู้เมืองจีน
bulletประเทศจีน
bulletแผนที่แสดงมหาวิทยาลัยในเมืองจีน
bulletแผนที่เมืองจีนภาคภาษาไทย
bulletแผนที่และข้อมูลมณฑลกวางตุ้ง
bulletตรวจสอบสภาพอากาศเมืองจีน
dot
Newsletter : ติดต่อรับข่าวสาร

dot
bulletZhejiang university
bulletมหาวิทยาลัยที่แพทยสภาไทยให้การรับรอง
bulletขอแนะนำแผนกภาษาจีน มหาวิทยาลัย BLCU
bulletมหาวิทยาลัย
bulletนิทานสุภาษิตจีน
bulletsummer camp China Youth University for Political Sciences
bulletx2




Huazhong University of Science and Technology MBBS
มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหัวจง (Huazhong  University of  Science  and  Technology : HUST) เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของรัฐบาลที่ติดอันดับหนึ่งในสิบของจีน  มีคณาจารย์มากกว่า 13,000 ท่าน และมีนักศึกษาจีนทั้งหมดประมาณ 56,000 คน  มีนักศึกษาต่างชาติ 560 คน  มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหัวจงมีความร่วมมือและแลกเปลี่ยนทางวิชาการในต่างประเทศมากกว่า 40 มหาวิทยาลัย  สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา  อังกฤษ  เยอรมนี   ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ฮ่องกง รวมถึงองค์การอนามัยโลก  และกองทุนเด็กขององค์การสหประชาชาติ
ที่ตั้ง : หวู่ฮันเป็นเมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย  เป็นเมืองที่มีประชาชนหนาแน่นที่สุดเมืองหนึ่งในแถบตอนกลางของประเทศจีน  มีประชากรประมาณ 9.1 ล้านคน ตั้งอยู่จุดบรรจบของแม่น้ำแยงซีเกียงและแม่น้ำฮั่นเจียง   หวู่ฮั่นยังเป็นศูนย์กลางทางการค้าศิลปวัฒนธรรม  และการคมนาคมในแถบภาคกลางของจีน มณฑลหูเปยมีสนามบินหวู่ฮั่น เทียนเหอ  ตั้งอยู่ที่เมืองหวู่ฮั่น  ซึ่งเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางของประเทศ มณฑลหูเป่ยมีสภาพอากาศ 4 ฤดูกาล ในฤดูหนาวซึ่งอากาศหนาวมาก  ในบางปีอาจมีหิมะตก  มีอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 1องศาเซลเซียส และในฤดูร้อนมีอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 33 องศาเซลเซียส

หลักสูตร : มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหัวจงเปิดสอนในระดับปริญญาตรีและโทภาคภาษาอังกฤษดังต่อไปนี้

ระดับปริญญาตรี
- วิศวกรรมศาสตร์ไฟฟ้าและสารสนเทศ (Electronics and Information Engineering)ใช้เวลาเรียน 4  ปีการศึกษา
- หลักสูตรเตรียมแพทย์ (Pro-Medical Program) ใช้เวลาเรียน 6 เดือน
- หลักสูตรแพทย์ศาสตร์ (MBBS) ใช้เวลาเรียน 6 ปีการศึกษา

ระดับปริญญาโท
- หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (Master of Business Administration : MBA) ใช้เวลาเรียน 2 ปีการศึกษา

เทอมการศึกษา
มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหัวจง เปิดภาคเรียนที่ 1 (ฤดูใบไม้ร่วง)  ประมาณต้นเดือนกันยายน-มกราคมของทุกปีและเปิดภาคเรียนที่ 2 (ฤดูใบไม้ผลิ)ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์-ต้นเดือนกรกฎาคมของทุกปี การสมัครเข้าเรียนต่อ: มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหัวจง เปิดรับสมัครนักศึกษาเข้าเรียนปีละ 2 ครั้งคือ
เทอมฤดูใบไม้ร่วง (กุมภมพันธ์ – กรกฎาคม) ควรส่งใบสมัครก่อนวันที่ 30 มิถุนายนของทุกปี
เทอมฤดูใบไม้ผลิ (กันยายน – มกราคม) ควรส่งใบสมัครก่อนวันที่ 30 ธันวาคมของทุกปี

มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหัวจง – วิทยาลัยแพทย์ถงจี้
โปรแกรมปริญญาตรีด้านความเชี่ยวชาญพิเศษทางการแพทย์(หลักสูตร 6 ปี)

I.      จุดประสงค์การศึกษา
โปรแกรมนี้มีเป้าหมายเพื่อฝึกหัดแพทย์ใหม่ให้มีคุณภาพสูง ซึ่งเป็นการประกันว่าแพทย์เหล่านี้สามารถให้การรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยหลังจากจบการศึกษา ภายใต้การดูแลของแพทย์อาวุโส และรับประกันได้ว่าแพทย์เหล่านี้มีพื้นฐานที่ดีในการศึกษาต่อไปผ่านชีวิตของตน และสามารถศึกษาเพิ่มเติมขั้นสูงในสาขาวิชาเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์

II.   มาตรฐานเบื้องตนที่ต้องการ
นักศึกษาหลักสูตรเฉพาะทางนี้ควรมีความรู้เป็นอย่างดีในทฤษฎีพื้นฐาน ความรู้พื้นฐานและทักษะพื้นฐานในเรื่องยาที่จำเป็นสำหรับการรักษา มีความนึกคิดที่ดีและมีศีลธรรม และมีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับงาน เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการศึกษาต่อไปหลังจากจบการศึกษา ผู้จบการศึกษาควรต้องมีศีลธรรม ความรู้ และความสามารถต่อไปนี้ :

ข้อกำหนดด้านทัศนคติ
1. มีทัศนคติทางวิทยาศาสตร์ต่อโลก ชีวิต และค่านิยม มีความรักชาติ และมีจิตที่เห็นแก่ลัทธิส่วนรวม (collectivism) และให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาวิทยาศาสตร์การแพทย์
2. มีความเข้าใจในการดูแลผู้ป่วย เคารพบุคลิกลักษณะของผู้ป่วย ป้องกันความลับส่วนตัวของผู้ป่วย ยึดมั่นต่อการป้องกันและบรรเทาโรคและความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยเหมือนเป็นหน้าที่ของตน และตระหนักถึงความรับผิดชอบตามหลักจริยธรรมในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย
3. ตระหนักถึงความสำคัญของการสื่อสารระหว่างแพทย์และผู้ป่วยอย่างเต็มที่ และสื่อสารกับผู้ป่วยและญาติของผู้ป่วยอย่างกระตือรือร้น เพื่อให้พวกเขาเข้าใจชัดเจน และให้ความร่วมมือในการผลักดัน และใช้แผนการรักษา
4. มีความเข้าใจเรื่องความคุ้มค่า ให้ความสนใจกับการใช้ยาอย่างมีเหตุผล เลือกแผนการวินิจฉัยและการรักษา ใช้หลักการการให้ความช่วยเหลือที่เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพอย่างถูกต้อง ใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดอย่างเหมาะสม และใช้ทรัพยากรที่มีอย่างเต็มที่ เพื่อบรรลุประโยชน์สูงสุดในการรักษาฟื้นฟูสู่สภาพเดิม
5. มีความเข้าใจการเรียนผ่านชีวิตของตน และตระหนักได้เต็มที่ถึงความสำคัญของการพัฒนาตนเองให้สมบูรณ์แบบอย่างไม่สิ้นสุด และรับการศึกษาที่ต่อเนื่อง
6. มีความเข้าใจจริยธรรมทางการแพทย์ เคารพความศรัทธาส่วนบุคคล เคารพทุกคน และมีความเข้าใจอันดีต่อเบื้องหลังของเขา และค่านิยมทางวัฒนธรรม
7. มีทัศนคติทางวิทยาศาสตร์ในการค้นหาความจริงจากข้อเท็จจริง เมื่อพบกับกิจกรรมทางการแพทย์ซึ่งอยู่เหนือความสามารถทางอาชีพของคุณ หรือซึ่งคุณไม่สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย และหาความช่วยเหลือจากแพทย์ท่านอื่นด้วยความสมัครใจ
8. คำนึงถึงประโยชน์ด้านสุขภาพของผู้ป่วยและชุมชมโดยถือเป็นความรับผิดชอบทางอาชีพของตัวคุณเองตลอดเวลา
9. มีความคิดริเริ่มและกล้าที่จะสงสัย กล้าที่จะวิเคราะห์และวิจารณ์ มีระบบความนึกคิดที่ต้องการให้ความร่วมมือในการสร้างความรู้ใหม่ และเพื่อค้นหาทักษะใหม่ๆ เคารพเพื่อนร่วมงานและมีจิตวิญญาณในการทำงานเป็นทีม มีความเข้าใจในการใช้ยาตามกฎหมาย และเรียนรู้วิธีป้องกัน สิทธิและประโยชน์ของผู้ป่วยและของตนเองโดยใช้กฎหมาย

ข้อกำหนดด้านความรู้
1. รับความรู้พื้นฐานและวิธีเชิงวิทยาศาสตร์ของ bioscience, behavior science, และ social scienceและใช้สิ่งเหล่านี้เป็นแนวทางในการเรียน และทำงานทางการแพทย์ในอนาคต
2. มีความเชี่ยวชาญด้านโครงสร้างปกติ การทำงาน และสภาพทางจิตของร่างกายมนุษย์ในช่วงต่างๆ ของชีวิต
3. เรียนรู้ปัจจัยชนิดต่างๆ ที่ทำให้เกิดโรคทั่วไป โรคที่เกิดได้บ่อย (รวมทั้งโรคทางประสาท) ในช่วงอายุต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ ตระหนักถึงปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมที่มีผล ปัจจัยทางสังคม และปัจจัยด้านจิตใจเชิงพฤติกรรม ในการทำให้เกิดโรค และตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันโรค
4. เรียนรู้สิ่งที่ทำให้เกิดโรค อาการป่วยไข้ และหลักการในการวินิจฉัย ป้องกัน และดูแลรักษาโรคทั่วไป และโรคที่เกิดได้บ่อย ในช่วงอายุต่างๆ ของร่างกายมนุษย์
5. เรียนรู้ความรู้พื้นฐานด้านการใช้ยา และหลักการทางการแพทย์ที่สมเหตุสมผลในการใช้ยา
6. เรียนรู้การเจริญเติบโตในครรภ์และการคลอด กรณีฉุกเฉินในการคลอด หลักการการดูแลรักษาสุขภาพก่อนคลอดและหลังคลอด และความรู้ทางการแพทย์ในการวางแผนครอบครัว
7. เรียนรู้หลักการสำหรับการศึกษาด้านสุขภาพ การป้องกันโรค และการคัดกรองโรค และมีความรู้ด้านที่เกี่ยวข้องในการบรรเทาความเจ็บป่วย และสูญเสียสมรรถภาพ และสนับสนุนการฟื้นฟู และการดูแลผู้ป่วยในระยะสุดท้าย
8. เรียนรู้ความรู้และวิธีการที่เกี่ยวข้องเรื่องโรคระบาด
9. เรียนรู้หลักการในการวิเคราะห์และการปฐมพยาบาลสำหรับกรณีฉุกเฉิน
10. เรียนรู้ลักษณะเบื้องต้นของยาจีนโบราณ และเข้าใจทฤษฎีที่มีการโต้แย้งด้วยเหตุผลของยาจีน
11. เรียนรู้กฎเบื้องต้นในการเกิดขึ้น พัฒนา และการระบาดของโรคติดต่อ และหลักการในการป้องกันและดูแลรักษาโรคติดต่อทั่วไป

ข้อกำหนดด้านทักษะ
1. มีความสามารถในการรวบรวมประวัติการรักษา และเขียนประวัติการรักษาได้อย่างถูกต้อง
2. มีความสามารถในการวิเคราะห์ทางกายภาพ และตรวจสอบทางการแพทย์อย่างเป็นระบบและมีมาตรฐาน
3. มีความคิดทางการรักษาที่ดี และมีความสามารถในการสื่อสารออกมา
4. มีความเชี่ยวชาญในการวินิจฉัยและการดูแลรักษาโรคทั่วไปที่ต้องทำเป็นประจำ และเกิดขึ้นบ่อยของโรคทางอายุรศาสตร์ การผ่าตัด โรคในสตรีและเด็ก และการทำงานที่ต้องทำเป็นประจำในแต่ละวัน
5. มีความสามารถในการวินิจฉัย ปฐมพยาบาล และจัดการกับกรณีฉุกเฉิน
6. มีความสามารถในการเลือกใช้ทักษะในการรักษาที่เหมาะสมตามสภาพจริง และเลือกได้เหมาะสมที่สุด คุ้มค่าที่สุด และวินิจฉัยและใช้วิธีการดูแลรักษาอย่างมีจริยธรรมมากที่สุด
7. มีความสามารถในการปฏิบัติงานทางการแพทย์ และใช้วิธีการวินิจฉัยและดูแลรักษาได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยใช้หลักการของ “การรักษาบนพื้นฐานของหลักฐาน”
8. มีความสามารถในการสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน ผู้ป่วย และญาติของผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยทำให้พวกเขาให้ความร่วมมือ
9. มีความสามารถในการใช้ประโยชน์จากแหล่งข้อมูลและสารสนเทศ เพื่อศึกษาและทำวิจัยของตนเองต่อไป
10. สามารถเผยแพร่และให้การศึกษาแก่ผู้ป่วยและสาธารณะ เกี่ยวกับรูปแบบการดำเนินชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ การป้องกันโรค และอื่นๆ มีความสามารถในการฟัง พูด อ่าน เขียน และแปลภาษาอังกฤษเฉพาะทาง

III. คุณลักษณะของโครงการ
โครงการนี้รวมความรู้ด้านมนุษย์ ข้อมูลและวิทยาการคอมพิวเตอร์ เข้ากับการแพทย์ เพื่อขยายการศึกษาอบรมให้กับแพทย์เบื้องต้นให้มีคุณภาพสูง

IV. สาขาวิชาหลัก
Preclinical medicine, clinical medicine

V. ระยะเวลาหลักสูตรและปริญญา
ระบบพื้นฐาน: 6 ปี บวกระบบที่ยืดหยุ่น แพทย์ศาสตร์บัณฑิต

VI. ชั่วโมงเรียน / หน่วยกิต
หน่วยกิตอย่างน้อยของหลักสูตร (รวมระบบการเรียนการสอน และการเป็นแพทย์ฝึกหัด): 294.5

VII. คอร์สหลักเฉพาะทาง
Human Anatomy, Histology and Embryology, Medical Microbiology, Medical Immunology, Biochemistry, Physiology, Pathology, Pathophysiology, Pharmacology, Diagnostics, Internal Medicine, Surgery

VIII. การฝึกงานและฝึกอบรมกับงานจริง (รวมประสบการณ์)
Clinical Extern, Clinical Intern