2. สิ่งที่ใช้ในการสมัคร
• กรอกใบสมัครระดับปริญญาโท
• วุฒิการศึกษาและผลการเรียนตัวจริง
• จดหมายแนะนำจากอาจารย์ระดับผู้ช่วยศาสตราจารย์ 2 ฉบับ หรือ ทุนการศึกษาที่ได้รับ
• หลักฐานทางการเงินจากธนาคาร
• HSK certificate;
• ค่าสมัคร
b) Applicants for programs leading to doctor's degrees:
• กรอกใบสมัครระดับปริญญาเอก
•หลักฐานทางการเงินจากธนาคาร
• จดหมายแนะนำจากอาจารย์ระดับผู้ช่วยศาสตราจารย์ 2 ฉบับ หรือ ทุนการศึกษาที่ได้รับ
• วุฒิการศึกษาและผลการเรียนตัวจริง
• HSK certificate (if applicants have passed);
•Graduate thesis and its Chinese abstract (applicants for programs taught in English should present an English abstract);
• ค่าสมัคร
3. วิธีการสมัคร
•ช่วงเวลาการรับสมัครจะอยู่ระหว่าง เดือน ตุลาคม.ถึงเดือน ธันวาคมของทุกปี หรือผู้สมัครสามารถที่จะมาสมัครได้โดยตรงยังมหาวิทยาลัย หรือส่งใบสมัครและเอกสารอื่นๆมายัง the Office of International Visiting Scholars and Students' Affairs.
• โบวชัวร์และรายชื่อคณะต่างๆสามารถที่จะหาได้จาก the Admission Office of the Graduate School and the Office of International Visiting Scholars and Students' Affairs
• ผู้สมัครจะต้องจ่ายค่าสมัครที่ the Admission Office of the Graduate School และกรอกเอกสารลงทะเบียนกรอกแบบฟอร์ม the Admission Registration Form and Examination Permission.
•ผู้สมัคร ที่ส่งเอกสารทางไปรษณีย์สามารถส่งเอกสารได้โดยตรงมาที่ the Office of International Visiting Scholars and Students' Affairs of BNU
4. การสอบคัดเลือก
•การสอบจะจัดขึ้นในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน มี.ค.ของทุกปี
•ผู้สมัครจะต้องแสดงใบอนุญาตเข้าสอบและเอกสารแสดงสิทธิ์การสอบอื่นๆ
• ผู้สมัครจะต้องเข้าสอบ 2 ครอส
5. กรณีของผู้ที่ไม่ต้องผ่านการสอบเข้า
a)เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของรัฐบาล And for detailed regulations, see 8.
b) ผู้สมัครที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัย นี้และสมัครเข้าเรียนปริญญาโทหรือปริญญาเอกจะต้องผ่านการสอบเข้ายกเว้นผู้ที่มีผลการเรียนยอดเยี่ยมและผ่านการแนะนำให้เข้าเรียนต่อจะไม่ต้องผ่านการสอบomitted
6. การเข้าเรียน
a)สถาบันจะตัดสินว่าจะรับผู้สมัครหรือไม่ขึ้นอยู่กับทั้งผลการสอบและผลการเรียนเดิมและเอกสารหลักฐานการสมัครอื่นๆ
c)ผู้สมัครที่มีคะแนนสอบเกินเกณฑ์มาตรฐานและเข้ากฎเกณฑ์การรับสมัครสามารถที่จะเข้าเป็นนักศึกษาปริญญาโทได้ ส่วนผู้ที่มีคะแนนสอบไม่ได้เกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานแต่เอกสารต่างๆครบถ้วน และตรงตามเกณฑ์ก็สามารถผ่านการสอบคัดเลือกเช่นกัน แต่จะเป็นเพียง trial graduate students
7. Issues on trial programs
• ช่วงเวลาของ the trial program คือ1 ปี ในระหว่างนี้นักศึกษาจะไม่สามรถที่จะเป็นนักศึกษาปริญญาจริงหลักสูตรของ trial program จะเหมือนกับหลักสูตรปริญญาโทอื่นๆ; trial students จะจ่ายค่าเรียนเหมือนนักศึกษาต่างชาติในหลักสูตรปริญญาโทอื่นๆ
• Trial students จะได้รับการคัดเลือกให้เข้าเป็นนักศึกษาปริญญาจริงๆในการสอบคัดเลือกปริญญาในปีถัดไป หลังจากจ่ายค่าสอบแล้ว ผู้ที่ผ่านการสอบจะได้เป็นนักศึกษาปริญญาแบบเป็นทางการ เกรดที่ได้ในระหว่างเป็นนักศึกษา trial สามารถใช้ได้จริง ผู้ซึ่งไม่ผ่านการสอบเข้าในปีต่อไป Those who can't pass the next year's entrance examination will only be viewed as having completed a program. จะไม่มีการคืนเงินค่าเรียนในช่วงที่เป็น trial year
• ผู้ซึ่งเรียนจบภายใน 2 ปีหลังจากผ่านการเรียนแบบ trial year จะต้องจ่ายค่าเรียน 2 ปี ส่วนผู้ที่ไม่สามารถที่จะเรียนจบได้ ใน 2ปี หลังจากผ่านการเรียนแบบ trial year จะต้องจ่ายค่าเรียนตามกฎเกณฑ์การยืดเวลาของการเรียนของปีที่ 3
• Trial students should sign a trial program contract with BNU.
8. Issues on government exchange programs
a) ผู้สมัครที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของรัฐบาลจะสามารถเข้าเรียนได้โดยไม่ต้องสอบเข้า
|