แนะนำตัวหน่อยค่ะ
ผมเป็นนักเรียนคนหนึ่งที่ได้รับทุนจากที่ทำงานให้ไปศึกษาต่อปริญญาเอก ณ ต่างประเทศ ซึ่งเป็นประเทศไหนก็ได้ทั่วโลก (โอ้วมันยอดมาก แต่จะไปไหนดีละ) ในใจมีหลายประเทศมากที่อยากจะไปเรียนต่อ ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่งเศส เยอร์มัน กรีซ เกาหลี ญี่ปุ่น ซึ่งแต่ละประเทศเป็นประเทศที่มีความสวยงามและวัฒนธรรมที่น่าไปศึกษา(และเที่ยว) แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะไปถามใคร สุดท้ายทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าให้ไปประเทศจีน
ด้วยความสงสัยว่าทำไม่ประเทศจีนถึงเป็นประเทศที่ทุกคนที่ผมรู้จักอยากให้ไปนัก เลยต้องขอบคุณโลกนี้ที่มี GooGle.co.th หาไปหามาพบว่าจีนเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทุกๆเรื่อง สิ้นค้าทั่วโลกส่วนใหญ่ ผลิตจากประเทศจีนเกือบทั้งสิ้น และประเทศจีนจะเป็นหนึ่งที่จะเป็นประเทศมหาอำนาจ
ผมก็เลยตัดสินใจมาเรียนที่จีน โดยไม่รู้อะไรเกี่ยวกับภาษาจีนวัฒนธรรม พูดไม่ได้แม้แต่คำเดียว คำถามต่อไปที่ถามตัวเอง ทำอย่างดีถึงได้ไปเรียนที่จีน มีเงินทุนพร้อมสนับสนุนแล้ว แต่ยังไม่มีที่เรียน 555 คำตอบที่ตอบกับตัวเองได้คือ ในเมื่อเราไม่รู้ภาษาเค้าเลย ต้องพึ่งเอเจ็นซี่ คำถามต่อมา บริษัทไหนดีที่ไม่ถูกหลอก ก็ต้องขอบคุณ Google.co.th อีกครั้ง ค้นไปค้นมาเจอเอเจ็นซี่มากมายหลายบริษัท ว่าแล้วก็โทรถามแหลก ถามไปถามมาเจอปัญหาเค้าอีก โอ้ววววว ประเทศจีนมันช่างใหญ่อะไรขนาดนั้น ไปเมืองไหนดีละ มหาวิทยาลัยดีละ แต่ละบริษัทก็บอกว่าเมืองนี้ มหาวิทยาลัยนี้ดี ไม่ตรงกันซักบริษัท เชื่อใครละทีนี้ ถามไปถามมา ก็เจอ พี่เปิ้ล (aecthai.com) นี่แหละไม่บอกว่าเมืองไหนดี มหาวิทยาลัยดี แต่เค้ากลับถามเราว่า ชอบอากาศแบบไหน ชอบกินอาหารแบบไหน เพราะถ้าเราไปเรียนจริงต้องใช้ชีวิตแบบนั้นไปอีกนานถามไม่ชอบจะอยู่ไม่ได้แล้วเสียเวลาเปล่า ก็เลยบอกว่า ชอบอากาศและอาหารเอาแบบใกล้เคียงประเทศไทยมากที่สุด พี่เค้าตอบมาว่า เมืองนี้เลย อากาศ อาหาร และไม่ต้องเดินทางไกลอยากกลับบ้านเมื่อไรก็ได้ไม่แพงไม่เมื่อย กว่างโจวเลยน้อง และสาขาที่ผมต้องเรียน เป็นสาขาวิชาวิทยาศาสตร์การอาหารและโภชนาการ พี่เปิ้ลแนะนำว่า มหาวิทยาลัย south China University of Technology เค้าดังมากในเรื่องวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ก็เลยตัดสินใจเอาอันนี้แหละเป็นยังงัยเป็นกัน ก็ดำเนินเรื่องติดต่อกับทางมหาวิทยาลัย ในการดำเนินเรื่องก็มีปัญหามากมาย แต่ก็ได้ความสะดวกสบายเป็นอย่างดีจากพี่เปิ้ล แทบไม่ต้องทำอะไรเลย ขาดตกเอกสารอะไรพี่เปิลก็โทรมาบอกว่าทางมหาวิทยาลัยต้องการอะไรบ้าง เพราะของผมเอกสารยุ่งยากมากเพราะสมัครเรียน ป เอก ใช้เอกสารเยอะ และต้องหาอาจารย์ที่ปรึกษาอีก แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี
การเดินทางสุดเหวอ
เล่ามาตั้งนานยังไม่เข้าเรื่องเลย....... เอาละว่าแล้วด้วยความที่งานต้องเร่งสะสางให้เสร็จก่อนเดินทางไปเรียน ทำให้ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย จะเดินทางอยู่แล้วภาษาจีนยังไม่ได้ซักตัวเลย (ไม่ได้จริงๆ) แต่ก็ต้องไปทำยังงัยได้ ว่าแล้ววันกำหนดเดินทางก็มาถึง 25 สิงหาคม 2549 การบินไทยได้พาร่างที่มีวิญญาณของผมข้ามน้ำข้ามทะเลย มาลงที่กว่างโจวประเทศจีนอย่างปลอดภัย มาถึงก็มั่วๆๆอยู่พักใหญ่ ไปทางไหน งง ไปหมดพูดก็ไม่ได้ หลุดออกจาก ตม. ของประเทศจีน โอ้วใจชื้นเลยครับ เจอพี่เปิ้ลยืนยิ้มไม่ออกอยู่หน้าประตูทางออกสนามบินเพราะผมติดอยู่ใน ตม. เกือบสองชม. เจอพี่เปิลปุ๊บฝนตกปั๊บตกหนักมาก แต่พี่เปิลเค้าหารถไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เลยไม่มีปัญหา จัดการนั่งรถตู้คันเล็กๆ ว่าแล้วก็มาถึงมหาวิทยาลัยที่จะต้องใช้ชีวิตในนี้ตั้งสี่ปี
มหาวิทยาลัยวันแรก..เข้าหอ
แรกเห็นโอ้วพระเจ้าจ๊อดใหญ่อะไรขนาดนั้นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสนว่าใหญ่แล้ว ที่นี่ใหญ่กว่ามากมาย ลงจากรถ ก็พบอาจารย์คนหนึ่งเค้าเป็นผู้จัดการเกี่ยวกับเรื่องหอพักให้กับนักศึกษาต่างชาติ ได้ห้องเป็นที่เรียบร้อย 505 โอ้วชั้นห้าไม่มีลิฟต์ อุปสรรคแรกที่ต้องเจอ นี่เราต้องเอาร่างที่มีน้ำหนัก 60 โล บวกกับสัมภาระที่เอามาสองกระเป๋าใหญ่ๆ รวมๆแล้วเกือบร้อยโล ขึ้นชั้นห้าหรอเนี่ย ใช้เวลาขนสัมพารกอยู่เกือบ สอง ชม. ก็เสร็จสิ้น สภาพที่เปิดห้องเข้าไปแรกเห็น ไม่มีคำบรรยายใดได้ชัดเจนเท่ากับคำว่า อยากกลับบ้าน ห้องเน่ามากถึงมากที่สุด เน่าแค่ไหนถามพี่เปิ้ลดูได้ พี่เปิ้ลใช้บริการห้องน้ำแล้ว... เอาว๊ะดีกว่าไม่มีที่นอน
โรงอาหาร..
เก็บของเข้าที่เรียบร้อย พี่เปิ้ลก็พาไปดูโรงอาหารพรุ่งนี้จะได้ไม่อดตาย ซื้อซิมโทรศัพท์ ช่วงนี้เองไม่รู้ผมทำบุญด้วยอะไรเจอคนไทยพอดี เค้าชื่อหลี นิสัยดีมากมาย พี่เปิ้ลเลยผากผมไว้กับหลี หลีพาไปซื้อของใช้ที่จำเป็นสำหรับคืนแรก เช่น ยาฆ่าแมลงสาบ น้ำยาล้างห้องน้ำรุ่นแรกเป็นพิเศษ ไม้กวาด ไม้ถูพื้น และอีกมากมาย ว่าแล้วมือเย็นก็มาถึง มื้อแรกกับอาหารต่างประเทศที่น่าประทับใจ อาหารคนหรือหมูเนี่ย ทุกอย่างตักรวมกันแล้ววางไว้บนข้าว พร้อมกับมองไปยังโต๊ะข้างๆว่าเค้ากินกันได้อย่างไร หันไปแรกเห็นใช้เวลามองไม่ถึงสองวินาที ก็หันกลับ แล้วไม่มีคำถามในใจอีกต่อไป (ผมไม่มีคำบรรยายใดนอกจากต้องมาเองถึงเข้าใจ) ทานได้สองคำก็อิ่ม กับความประทับในอาหารจีนที่คิดมาตลอดว่าเป็นอาหารที่น่าจะอร่อยมากมาย
เก็บห้อง..ครั้งแรกในชีวิต
ถึงห้องปุ๊บก็จัดการกับแมลงสาบนับสิบที่วิ่งกันอย่างสนุกสนานราวกับเป็นสวนสนุก กวาดพื้น ล้างห้องน้ำ แม่เจ้าชีวิตไม่เคยทำมาก่อน จัดการเสร็จสับหมดแรงกับความประทับใจวันแรกที่มาถึง ก็หลับฝันดีด้วยความเหนื่อยอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน
(ไว้มีโอกาสจะเขียนเล่าใหม่ เรื่องสนุกมากมายกับการใช้ชีวิตที่ต่างแดน พร้อมรูปประกอบ) |