ReadyPlanet.com
dot
ค้นหาบทความ

dot
bulletระดับมัธยม
bulletBeijing Jiaotong University
dot
มหาวิทยาลัยในไต้หวัน
dot
dot
เมืองไทเป
dot
bulletNational Zhengzhi University
bulletNational Taiwan Normal University
bulletNational Taiwan Normal University
dot
เมืองไถจง
dot
bulletFengchia University
dot
ประวัติศาสตร์จีนน่ารู้
dot
bulletราชวงศ์ต่าง ๆ ฯ
bulletการเริ่มต้นการปกครองของชนเผ่าหฺวาซย่า
bulletระบบศักดินาในราชวงศ์โจวและศึกแย่งชิงอำนาจของเหล่าเจ้านครรัฐ
bulletมหาอาณาจักรฉิน : การก่อตัวและการล่มสลาย
bulletการขยายแสนยานุภาพของอาณาจักรฮั่นตะวันตก
bulletราชวงศ์ฮั่นตะวันออก : พระญาติวงศ์และขันทีครองเมือง
dot
ข่าวสาร Update
dot
bulletสถานศึกษาในประเทศจีนที่ ก.พ.รับรอง
dot
กวีนิพนธ์จีน
dot
bulletความหมายแห่งกวีนิพนธ์จีน
bulletห้วงคำนึงยามดึก หลี่ไป๋
bulletเจวี๋ยจวี้ ตู้ฝู่
bulletถอนต้นกล้า หลี่เซิน
dot
Neighbor's Links
dot
bulletสถานีวิทยุ ซีอาร์ไอ ปักกิ่ง ภาคภาษาไทย
bulletเรียนภาษาจีนออนไลน์
bulletข่าวสารและรอบรู้เมืองจีน
bulletประเทศจีน
bulletแผนที่แสดงมหาวิทยาลัยในเมืองจีน
bulletแผนที่เมืองจีนภาคภาษาไทย
bulletแผนที่และข้อมูลมณฑลกวางตุ้ง
bulletตรวจสอบสภาพอากาศเมืองจีน
dot
Newsletter : ติดต่อรับข่าวสาร

dot
bulletZhejiang university
bulletมหาวิทยาลัยที่แพทยสภาไทยให้การรับรอง
bulletขอแนะนำแผนกภาษาจีน มหาวิทยาลัย BLCU
bulletมหาวิทยาลัย
bulletนิทานสุภาษิตจีน
bulletsummer camp China Youth University for Political Sciences
bulletx2




จดหมายจากน้องมีน

 

วัสดีค่ะพี่เปิ้ล  น้องมีนเอง

 

เพิ่งสอบเสร็จค่ะ  เหนื่อยมากมาย  ท้อด้วย

 บอกตามตรงไม่แน่ใจตัวเองว่าจะเรียนจบหรือเปล่า  เหนื่อยมาก  ยากมากค่ะ

แต่ก็จะสู้จนถึงที่สุดแหละค่ะ

 

จากปีที่แล้วมาถึงวันนี้ก็ไม่นึกเหมือนกันว่าจะมาได้ขนาดนี้  เพราะงั้นก็สู้ๆต่อไปค่ะ

 

ปีที่แล้วเจอกับพี่เปิ้ลครั้งแรกแล้วบอกพี่เปิ้ลว่าจะมาเรียนเมืองจีน  มาเรียนภาษาจีนแล้วที่สำคัญ

คืออยากเรียนด็อกเตอร์ที่นี่  พี่เปิ้ลยังว่าต้องเรียนภาษาจีนสักสองปี

อันนี้มีนว่าก็จริงนะ ค่ะ  ถ้าพื้นภาษาเราดีก็จะไม่ลำบากเท่าไหร่

 

แต่นี่มีนเรียนจีนแค่ปีเดียว  จากที่ไม่ได้เลยสักคำ  กลับอาจหาญมาเรียนต่อ ดร. จนได้

 

ตอนปีที่แล้วที่มีนเรียนแต่ภาษาจีนอย่างเดียว  มีนคิดแต่ว่าต้องสอบเรียนต่อเอกให้ได้

อ่านหนังสือเพื่อสอบเรียนต่อให้ได้  โดยที่ไม่ได้คิดอะไรไกลกว่านั้นเลย

ดูเหมือนว่ามีนจะขยันและตั้งใจ ไม่รู้ว่าจะมากกว่าคนอื่นหรือเปล่า

แต่จุดหมายของมีน กะของเพื่อนๆที่มาเรียนภาษาจีนด้วยกันเมื่อปีที่แล้วต่างกัน

เลยดูเหมือนวิธีการเรียนจะไม่เหมือนกัน  มีนไม่ค่อยได้สนใจวิชาในห้องเท่าไหร่ (อันนี้ถือว่าแย่ค่ะ

ควรจะสนใจมากๆ  เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญอย่างยิ่ง)

 

จนสุดท้ายได้เรียนเอกสมใจ   แต่อะไรก็ไม่ได้เป็นอย่างหวังนะค่ะ  ว่ามันจะราบรื่น

มันกลับเป็นการเริ่มต้นที่หนักมาก  ภาษาเป็นอุปสรรคมากมายค่ะ

ตอนเข้าคลาสเรียนวันแรก  ไม่รู้เรื่องอะไรเลย  ฟังไม่ออกเลย

แม้กระทั้งเพื่อนๆพูดอะไรก็ฟังไม่ออก  หนึ่งเดือนผ่านไปก็ยังฟังไม่ออกค่ะ ตอนนั้นร้องไห้ทุกวันเลย

ท้อมากๆ  เหมือนเราบ้า  แล้วก็รู้สึกโง่มากๆ

เพราะภาษาต่างกับที่เรียนในห้องเรียนภาษาจีนมากมาย  ทั้งระดับความเร็วที่พูด  และการเขียน(คนจีนเขียนหวัดอ่านไม่ออกค่ะ)

 

วันนี้ผ่านมาหนึ่งเทอม  มีนรู้เลยค่ะ  ว่าภาษาอ่อนมาก  มากจนแย่เลยค่ะเมื่อเทียบกับคนจีน

ก็ใช่ที่ใครจะพูดว่า  ไม่ใช่ภาษาพ่อ ภาษาแม่เรา  เราจะเก่งได้ไง  ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว

แต่ความจริงเราก็ควรจะเตรียมตัวให้ดีกว่านี้

มีนเข้าคลาสมาสี่เดือน  สิ่งที่ได้มากที่สุดคือ  ทักษะการฟัง  แต่เรื่องการเขียนการอ่านยังแย่ค่ะ

 

แต่ดีขึ้นอีกอย่างก็ความรู้สึกค่ะ  อย่างที่เคยบอกพี่เปิ้ลว่า  เข้าเรียนเดือนแรกร้องไห้เลย

เพราะไม่รู้เรื่องอะไรเลย  แต่นี่ผ่านมาจบสอบเสร็จก็ดีขึ้น

แต่ถ้าเทียบกะคนจีนก็ตำกว่า มาตราฐานอยู่ดีแหละค่ะ

 

คนจีนขยันมาก  จริงๆค่ะพี่เปิ้ล  มากมายจนไม่น่าเชื่อ  นักเรียนไทยบ้านเราอายไปเลยจริงๆค่ะ

 

ความจริงถ้าเรียนที่เมืองไทย  วิชาในคลาสที่เรียนๆนี่มีนก็จะไม่หนักใจนะค่ะ  แต่พอมาเรียนที่นี่  มันเป็นภาษาจีน

วิชาที่เคยรู้เรื่องและเข้าใจกลับพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลย  ฟังไม่ออกว่าอาจารย์อธิบายว่ายังไง

เพื่อนๆพรีเซนต์งานก็ไม่รู้เรื่อง

 

ตัวเราพรีเซนต์งาน ภาษาก็ไม่ใช่ถูกต้องเพื่อนๆก็งงๆค่ะ 

 

แต่ทุกคนก็ให้กำลังใจ  ที่เหนื่อยมากๆคือต้องอ่านหนังสือภาษาอังกฤษสลับกับภาษาจีน

เพราะอ่านจีนอย่างเดียวไม่รู้เรื่องค่ะ  และก็ต้องใช้เวลานานมาก

เลยต้องอ่านภาษาอังกฤษไปด้วยเพื่อเรียนคาบต่อไป

 

แต่จะมาอ่านแต่อังกฤษอย่างเดียวก็ไม่ได้ค่ะ

เพราะจะไม่รู้ศัพท์จีน  แล้วจะฟังอาจารย์พูดไม่ออกเลยถ้าเราไม่รู้ศัพท์  มีนเรียนการเงิน

เพราะงั้นศัพท์มันก็ศัพท์เฉพาะทางของการเงิน

 

ภาษาจีนที่เรียนมาปีที่แล้ว  ไม่มีเลยค่ะ   เลยรู้สึกว่าหนักมาก

ที่สำคัญนะค่ะ  อาจารย์เขียนเลคเชอร์  มีนอ่านไม่ออกสักตัวเลยค่ะ  แม้กระทั้งเลคเชอร์เพื่อนๆ

ในห้องก็อ่านไม่ออกค่ะ  เค้าเขียนกันหวัดมากๆ  ขีดไหนเป็นขีดไหน  มีนไม่รู้เรื่องเลย

นี่แหละค่ะอุปสรรคสำคัญ  มีนต้องใช้วิธีถ่ายรูปเลยค่ะ  แล้วมานั้งแกะเอาตอนหลัง

ดูสิค่ะ  น่าเหนื่อยมั้ยแบบนี้

ตอนนี้ต้องไปหาหนังสือ  แบบตัวฮั่นจือ  ที่เขียนหวัดๆมานั่งดูค่ะ  จะได้ชินตา

มัวแต่อ่านตัวพิมพ์ไม่ได้ค่ะ  อ่านลายมือคนอื่นไม่ออก

 

แล้วเรียนที่นี่นะค่ะ  อะไรๆก็ต้องดูในเนต  ประกาศอะไรต่ออะไรก็ต้องดูในเนต  แล้วเนตก็มีแต่ภาษาจีน

ลำบากมากมายค่ะ  ลงทะเบียน  หรืออะไรต่ออะไร  ก็ไม่เหมือนเมืองไทยเลยสักอย่าง

ไม่คุ้นเคยเลยค่ะ   ทำอะไรทีเหนื่อยใจ  คิดถึงบ้านมากมาย

 

มีนว่าถึงจะสอบHSKได้ระดับเกาจี๋ นะค่ะ  แต่พอมาเรียนในคลาสก็ต้องเริ่มใหม่อยู่ดี

แต่พื้นฐานภาษาจีนดีก็มีประโยชน์ค่ะ คือไม่ลำบากในการติดต่อสื่อสารกะคนอื่นๆ

แต่เรื่องวิชาในคลาสละก็ต้องมานั่งนับหนึ่งค่ะ 

 

 

เหนื่อยจริงๆค่ะ  ปิดเทอมแล้วแต่ก็ต้องเตรียมตัวเรียนเทอมต่อไป  โดยเฉพาะภาษาจีนต้องพัฒนาให้ได้กว่านี้

 

เรื่องเที่ยวเทอมนี้ไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ  ไม่ได้ไปไหนทำอะไรเลยยยยยยยย

ตอนนี้อากาศที่นี่ก็หนาวมักมากกกกกกก  ลบสิบองศาทุกวันเลยค่ะ

ไปไหนที่ก็ลำบาก  หนาวอะค่ะลมแรงด้วย

 

ยังไงพี่เปิ้งก็ช่วยเป็นกำลังใจให้มีนด้วยละกันนะค่ะ

 

ขอให้ได้เรียนจบได้เป็น ดร.สมใจ  และขอให้ภาษาจีนของมีนดีขึ้นเร็ววันเร็วคืน

 

ถ้ากลับไทยจะแวะไปทักทายพี่เปิ้ลค่ะ

 

น้องมีน

 




ประสบการณ์จากเพื่อน

:: ประสบการณ์จากเพื่อน :: article
จดหมายจากกว่างโจว..ฮา
น้องอูน จากมหานครกวางโจว Huananli Daxue
:: ประสบการณ์ในเมืองปักกิ่ง 2 :: article
:: จดหมายจากเพื่อนถึงเพื่อน ... (ต้าเหลียน) :: article
:: ประสบการณ์จากไต้หวัน :: article
:: เรื่องเล่าจากเทียนจิน :: article
:: ประสบการณ์ในเมืองปักกิ่ง :: article
:: ประสบการณ์ในต้าเหลียน :: article