Asia Education
Center
ศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อประเทศจีนและประเทศไต้หวัน
*** เรียนภาษาจีน อยากเป็นเร็ว และหางานง่ายต้องเรียนกับเจ้าของภาษา***
ได้เปิดมุมมองใหม่ๆ สนุกสนานกับการเรียนภาษาและวัฒนธรรมจีน
การท่องเที่ยวและกิจกรรมดีๆมากมาย กับเพื่อนใหม่ชาวต่างชาติ
เรายินดีให้คำปรึกษาการศึกษาต่อประเทศไต้หวันและจีน โดยไม่คิดค่าบริการ
ติดต่อเราซิคะ
087-7977981 หรือ
มือถือ 081-8493601
:: ประสบการณ์ในเมืองปักกิ่ง ::
คนที่เคยไปปักกิ่งมาแล้ว เคยไปใช้ชีวิตอยู่ยาวๆอาจจะมีความรู้สึกแบบเดียวกันเมื่อได้จากปักกิ่งมาแล้ว ถามว่าทำไมถึงคิด ก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน แต่ว่าเมืองปักกิ่งเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ในหลายๆอย่าง มีสถาปัตยกรรมที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ได้เป็นพันๆปี เช่น กู้กง หรือพระราชวังต้องห้าม เทียนฐันหรือหอบูชาฟ้าของฮ่องเต้ วัดลามะก็น่าสนใจ เพราะมีพระศรีอาริย์ที่สลักด้วยไม้จันทน์หอมทั้งต้นสูงประมาณ ยี่สิบกว่าเมตร ไปเห็นแล้วตะลึงเลยว่าเค้าทำได้ยังไง สุสานฮ่องเต้ราชวงศ์หมิงที่อยู่ลึกลงไปใต้ดินประมาณตึก 7 ชั้น โฮะ! คนสมัยก่อนช่างมีความสามารถเหลือเกินที่ขุดดินลงไปแล้วสร้างห้องหับที่ทำด้วยหินแกรนิตที่แข็งมากๆ ขนาดเครื่องมือสมัยนี้ยังเจาะเข้าไปยากมาก กำแพงเมืองจีนที่ยาวถึง6000 กว่ากิโลเมตร ขนาดเราเดินบนกำแพงยังยาก เพราะมีบางช่วงชันมาก แล้วสมัยก่อนไม่มีเครื่องมือที่ทันสมัยเลยแรงงานคนล้วนๆแต่สร้างได้จนทำให้คนทั้งโลกตะลึง นี่แหละความพยายามของมนุษย์ ที่ชอบอีกก็คือมีบ้านของขุนนางในสมัยก่อนที่ยังอนุรักษ์ไว้อย่างดีจนมาถึงบัดนี้แล้วนำมาทำเป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนได้เข้าไปดูแนวความคิดความเชื่อของคนสมัยก่อนที่แสดงออกมาเป็นสิ่งปลูกสร้าง ชื่อสถานที่ว่า ต้ากงกวนหยวน ท่านลองเข้าไปดูซิแต่ต้องมีไกด์นะเพราะในนั้นต้องคนที่รู้เรื่องราวจึงจะสนุกสนานกับการดู ถ้าไม่มีใครเล่าเรื่องราวของบ้านขุนนางนี้ให้ฟังก็ธรรมดาเป็นบ้านขุนนางแบบในหนังจีนเท่านั้น พอดีได้ไปกับอาจารย์ อาจารย์เลยอธิบายให้ฟังชอบมากเลย ราชบัลลังก์ฮ่องเต้ พูดถึงคนปักกิ่งคนปักกิ่งเป็นมิตรนะคะ มีน้ำใจด้วย เคยถามทางเค้าหลายครั้งก็ได้การช่วยเหลืออย่างดีขนาดว่าถามเค้า เค้าตอบไม่ได้ เค้าก็พยายามที่จะถามคนอื่นให้เรา หรือเคยเจอที่ว่าพาเราไปถึงที่เลย เคยครั้งหนึ่งไปซื้อของที่ห้างที่เค้าขายเกี่ยวกับอุปกรณ์คอม ซื้อแค่10 หยวนแต่ให้เงินไป 100 หยวนแล้วเดินออกเลยลืมเอาเงินทอน กลับไปอีกทีหลังจากนั้นสามวันเค้ายังจำเราได้แล้วรีบเอาเงินทอนให้เรา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเจอดีๆแบบนี้ไปทุกคนรึเปล่านะคะ เพราะคนที่ร้ายกาจก็มีคะ เช่นแคชเชี่ยร์ของห้างเวลาทอนเงินชอบโยเงินให้ยังกะให้ขอทาน เพื่อนๆเกาหลียังเอามาวิจารณ์ให้ห้องเรียน หรือคนขายของให้พิพิธภัณฑ์ตามสถานที่ราชการจะดุ "ไม่ซื้อก็อย่ามาดูอะไรประมาณนี้ " เจอบ่ยอๆ คนขายของทะเลาะด่าคนซื้อ จีนเค้าจะคิดว่าผู้หญิงไทยสวยเคยไปคุยกับเค้าเค้าจะถามเราว่าเป็นคนชาติไหน พอบอกว่าคนไทยเค้าก็ว่า ถึงว่าทำไมสวย( หุหุ เค้าชมเรารึเปล่าหว่า?) แล้วคนจีนที่เคยมาเมืองไทยก็จะพูดกันปากต่อปากว่าสาวไทยสวย คนจีนจะรู้จักกระเทยไทย ว่ากระเทยไทยสวย แล้วก็พัทยาน่าเที่ยว รู้แค่เนี้ย พวกเพื่อนๆชาติอื่นก็รู้จักบ้านเราแค่พัทยาเอง แสดงว่าททท.ยังโปรโมทการท่องเที่ยวไม่ดี
หอบูชาฟ้าของฮ่องเต้ อากาศปักกิ่งหนาวและแห้งมาก เค้าเรียกว่า กันเจ้า คือมันแห้งจนผิวแตกไปหมด ทาครีมยังไงก็เอาไม่อยู่ ผิวคันไปหมด ต้องตื่นมาเกาอย่างเมามันตอนตีหนึ่งตีสองทุกที เลยต้องไปหาซื้อครีมของจีนมาทาแต่ก็ปรากฏว่าไปได้กลีเซอรีนมา โอ! ยอดมากเลย ถ้าไม่ได้เจ้ากลีเซอรีน เดี๊ยนหนังกรอบตายคาปักกิ่งแน่ แต่เค้ามีขายเฉพาะช่วงหน้าหนาวเท่านั้น ตอนที่ไปปักกิ่งช่วงเดือน ก.พ. ทัศนียภาพเหี่ยวเฉามากเลย เพราะต้นไม้ใบหญ้าพากันแห้งตายหมด ต้นไม้ก็เหลือแต่กิ่ง ยิ่งตามตึกมีพวกซากไม้เลื้อยที่มันแห้งตาย โอย!ดูแล้วอย่างกับบ้านเรือนร้างไม่ชอบเลย แต่พอเริ่มเข้าฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น โอ้โฮ พรึบเดียวแย่งกันแตกกิ่งแตกใบในเวลาอันรวดเร็ว อากาศก็เริ่มสบายขึ้นเย็นนิดหน่อย ต้นไม้ใบหญ้าแย่งกันแตกใบออกดอก อย่างกับว่าจะกลัวไม่ทันเวลาแสดงความสวยงามของมัน ชอบฤดูใบไม้ผลิมาก เราไม่เคยเจอแบบนี้ในเมืองไทย ดอกไม้ที่เค้าปลูกไว้ตามทางออกดอกสวยมาก ไม่ทราบว่าดอกอะไร แต่ปักกิ่งเสียตรงที่มีพายุทราย มีลมทรายช่วงเมษา พฤษภา
ซุ้มประตูเมืองปักกิ่งที่ยังคงอยู่
ถามเรื่องการเรียนภาษาจีนเป็นอย่างไรบรรยากาศในการเรียนเป็นยังไง บอกเลยว่า Happy และสนุกสนานในการเรียนมาก เพราะเพื่อนๆให้ห้องมี 15-16 คน บางทีก็เกินกว่านั้น เพราะจะมีเพื่อนในชั้นอื่นย้ายมาลองเรียน เรียนไม่ได้ก็ย้ายไปหลายคน แต่ที่อยู่ๆกันก็สนิทกันดี มีคนเกาหลี ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย แต่ละคนขยันๆทั้งนั้น อาจารย์สอนอะไรพวกเราก็จะมีคำถาม อาจารย์ก็มีเรื่องมาเล่าตอบเรามากมาย ขนาดมีอาจารย์ท่านหนึ่งบอกว่าสอนห้องนี้สนุกไม่มีความรู้สึกเลยว่าเบื่อหรือว่าอยากให้เลิกเรียนเร็วๆ วันหนึ่งก็จะเรียน 2วิชาช่วงเช้า ช่วงบ่ายก็จะเรียนพวกกิจกรรมเช่นพู่กันจีน ไท้เก๊ก วัฒนธรรมจีน หลักสูตรภาษาจีนที่ใช้สอนก็เป็นของ ม.ปักกิ่ง กับมหาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง(BLCU) ชอบหลักสูตรของ BLCU เพราเค้านำเรื่องที่เป็นวัฒนธรรมของคนจีนสมัยก่อนมาให้เราเรียน เช่นการรับแขก การเคารพผู้ใหญ่ การตั้งชื่อ ความเชื่อตามเทศกาล แนวความคิดของคนจีน คือให้เราเรียนในวิชาฟัง (ทิงลี่) ฟังแล้วตอบคำถามซึ่งเราก็ได้รู้วัฒนธรรมเค้าไปด้วย ที่พูดว่าเป็นของสมัยก่อน เพราะคนสมัยนี้ไม่ค่อยปฏิบัติกันตามนี้แล้ว เช่นเทศกาลตรุษจีน เค้าทำอะไรกันมากมากมาย ซึ่งสมัยนี้ในเมืองจีนไม่ได้ทำกันแบบนั้นแล้วมีแต่ตามชนบท หรือคนจีนที่ไปอยู่ที่ประเทศอื่นจะปฏิบัติตามประเพณีมากกว่าคนในประเทศเสียเอง บางทีเนื้อหาของบทเรียนก็เอานิทานตลกขำขันมาให้เราอ่านกัน มันก็เลยเป็นการเรียนที่ไม่น่าเบื่อ แล้วพวกเราก็จะถามคำถามกันบ่อย ตอนแรกที่ไม่คุ้นกันไม่สนิกันก็ไม่ค่อยมีคำถาม แต่ดิฉันถือว่าเราไปเรียนแล้ว เสียเงินแล้วต้องเอาให้คุ้มเลยเป็นคนที่ถามอาจารย์ก่อนโดยไม่กลัวใครจะว่า สุดท้ายเพื่อนๆก็เลยถามกันใหญ่
ล่องทะเลสาบคุนหมิงที่พระราชวังฤดูร้อน ในห้องมีหนุ่มเกาหลี ขาวตี๋สูงห่อคนนึงไปแอบได้ยินใครพูดมาไม่รู้ว่าวันที่ 13-14 เม.ย. บ้านเราเป็นเทศกาลสงกรานต์ เรากับmate ซึ่งเป็นคนไทยนัดกันไว้แล้วว่า ตอนกลางคืนถ้าเป็นเพื่อนคนไทยมาเรียกอย่าเปิดประตู เพราะจะต้องโดนสาดน้ำแน่ๆ ปรากฏว่าการณ์ไม่เป็นตามนั้น อีตาเฉินปินมาเคาะประตูห้อง ซึ่งเราไม่เอะใจกันเลยว่าตานี่จะมาแกล้ง เค้าเคาะประตูเสร็จ mateเราก็ไปเปิด ตาเฉินปินก็ถามว่า จั้วเย่จั้วเห่าเลอมา (การบ้านทำเสร็จรึยัง) พวกเราก็เลยต้อนรับขับสู้ทักทายนึกว่าจะมาถามเรื่องการบ้าน พอเชิญเข้ามาเท่านั้นแหละ เอาน้ำเป็นถังเข้ามาสาดmateที่เปิดประตู mate เลยวิ่งไปหลบในห้องน้ำ เอาผ้าผ่านคลุมตัว ส่วนตัวเองหาที่ซ่อนไม่ทัน โดนน้ำเป็นขวดเทใส่แล้วก็ได้คำอวยพรสวัสดีปีใหม่ ตอนนั้นที่ปักกิ่งยังหนาวอยู่เลยคะ แถมต้องมานั่งถูห้องที่ตานี่เอามาสาด เพราะฉะนั้นใครไปเรียนช่วงนี้ก็เตรียมตัวถูกแกล้งได้เลยคะ พูดถึงเรื่องการเรียนสถาบันที่เรียนชื่อ อาจารย์ที่สอนก็น่ารักมาก บอกว่าเราเหมือนลูกๆของท่านใครมีปัญหาอะไรให้บอก แล้วท่านก็จะเตือนให้เราต้องทานอาหารเช้า บางวันไล่ถามทุกคนว่าทานข้าวมารึยัง แล้วก็จะเตือนให้ทุกคนดื่มน้ำบ่อยๆต้องมีแก้วน้ำติดตัว ดื่มน้ำบ่อยจะได้ไม่ป่วยง่าย ท่านแซ่เจียงคะ เราทุกคนรักท่านมาก ยังมีเรื่องสนุกๆอีกเยอะไว้จะมาเล่าให้ฟังใหม่
|
:: ประสบการณ์จากเพื่อน :: จดหมายจากกว่างโจว..ฮา จดหมายจากน้องมีน น้องอูน จากมหานครกวางโจว Huananli Daxue :: ประสบการณ์ในเมืองปักกิ่ง 2 :: :: จดหมายจากเพื่อนถึงเพื่อน ... (ต้าเหลียน) :: :: ประสบการณ์จากไต้หวัน :: :: เรื่องเล่าจากเทียนจิน :: :: ประสบการณ์ในต้าเหลียน :: |